วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2561

Record 12
Monday 2 April 2018
Knowledge
       การเรียนการสอนในวันนี้เป็นการทดลองสอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ และอาจารย์เริ่มต้นการเรียนการสอนด้วยการทบทวนการเรียนในสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจารย์เน้นของเรื่อง EF,BBL เพราะเป็นเรื่องสำคัญในการสอนเด็กปฐมวัย
           EF (Executive Functions) เป็นกระบวนการทางความคิด (Mental process) ในสมองส่วนหน้า ที่เกี่ยวข้องกับการคิด ความรู้สึก และการกระทำ เช่น การยั้งใจคิดไตร่ตรอง การควบคุมอารมณ์ การยืดหยุ่นทางความคิด การตั้งเป้าหมาย วางแผน ความมุ่งมั่น การจดจำและเรียกใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดลำดับความสำคัญของเรื่องต่างๆ และการทำสิ่งต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอนจนบรรลุความสำเร็จ ซึ่งเป็นทักษะที่มนุษย์เราทุกคนต้องใช้ มีความสำคัญยิ่งต่อทั้งความสำเร็จในการเรียน การทำงาน รวมทั้งการมีชีวิตครอบครัว ทักษะ EF นี้นักวิชาการระดับโลกชี้แล้วว่า สำคัญกว่า IQ ทั้งนี้ มีงานวิจัยชัดเจนว่า ช่วงวัย 3-6 ปีนี้ เป็นช่วงเวลาทองของชีวิตในการพัฒนาทักษะ EF ให้กับเด็ก เพราะสมองจะมีการพัฒนาทักษะ EF ได้ดีที่สุดในช่วงเวลานี้ พ้นจากช่วงเวลานี้ไปถึงวัยเรียน วัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น แม้จะยังพัฒนาได้ แต่ก็จะไม่ได้ดีเท่ากับช่วงปฐมวัย


Executive Functions (EFประกอบด้วยทักษะ 9 ด้าน ประกอบด้วย 

           1. Working memory ความจำที่นำมาใช้งาน ความสามารถในการเก็บข้อมูล ประมวล และดึงข้อมูลที่เก็บในคลังสมองของเราออกมาใช้ตามสถานการณ์ที่ต้องการ 
           2. Inhibitory Control การยั้งคิด และควบคุมแรงปรารถนาของตนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จนสามารถหยุดยั้งพฤติกรรมได้ในกาลเทศะที่สมควร เด็กที่ขาดความยับยั้งชั่งใจ ก็เหมือน “รถที่ขาดเบรก”
           3. Shift หรือ Cognitive Flexibility การยืดหยุ่นความคิด สามารถปรับเปลี่ยนความคิดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปยืดหยุ่นพลิกแพลงเป็น เห็นทางออกใหม่ๆ และคิดนอกกรอบ”ได้ 
           4. Focus Attention การใส่ใจจดจ่อมุ่งความสนใจอยู่กับสิ่งที่ทำอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่งๆ โดยไม่วอกแวก 
           5. Emotional Control การควบคุมอารมณ์ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จัดการกับความเครียดความเหงาได้ มีอารมณ์มั่นคง และแสดงออกแบบที่ไม่รบกวนผู้อื่น 
           6. Planning and Organizing การวางแผนและการจัดระบบดำเนินการเริ่มตั้งแต่การตั้งเป้าหมาย การเห็นภาพรวม จัดลำดับความสำคัญ จัดระบบโครงสร้าง จนถึงการแตกเป้าหมายให้เป็นขั้นตอน 
           7. Self -Monitoring การรู้จักประเมินตนเอง รวมถึงการตรวจสอบการงานเพื่อหาจุดบกพร่อง และรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร ได้ผลอย่างไร 
           8. Initiating การริเริ่มและลงมือทำงานตามที่คิดเมื่อคิดแล้วก็ลงมือทำ ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง 
           9. Goal-Directed Persistence ความพากเพียรมุ่งสู่เป้าหมาย เมื่อตั้งใจและลงมือทำแล้ว มีความมุ่งมั่นบากบั่น ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใดๆก็พร้อมฝ่าฟันจนถึงความสำเร็จ
            BBL (Brain-based Learning) คือการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับพัฒนาการของสมองแต่ละช่วงวัย เป็นการนำองค์ความรู้เรื่องสมองมาใช้เป็นฐานในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ โดยมีที่มาจากศาสตร์การเรียนรู้ 2 สาขาคือ
·                ความรู้ทางประสาทวิทยา (Neurosciences)  ซึ่งอธิบายที่มาของความคิดและจิตใจของมนุษย์ โดยเฉพาะในด้านที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กับทักษะการเรียนรู้ อันได้แก่ ความสามารถในการเรียนรู้ ความจำ ความเข้าใจ และความชำนาญ โดยผ่านทฤษฎีว่าด้วยการทำงานของสมองเป็นสำคัญ
·             แนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ (Learning Theories) ต่างๆ ที่อธิบายเกี่ยวกับการเรียนรู้ของสมองมนุษย์ และกระบวนการเรียนรู้เกิดขึ้นและมีพัฒนาการอย่างไร
               การบูรณาการองค์ความรู้ทั้ง2สาขาเข้าด้วยกันทำให้กระบวนการจัดการเรียนรู้ตั้งอยู่บนฐานของการพิจารณาว่าปัจจัยใดบ้างที่จะทำให้สมองมีการเปลี่ยนแปลง สมองมีปฏิกิริยาตอบรับต่อการเรียนการสอนแบบใด และอย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้นำไปสู่การจัดกิจกรรมระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน การจัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และที่สำคัญคือการออกแบบและใช้เครื่องมือเพื่อการเรียนรู้ต่างๆ โดยเน้นว่าต้องทำให้ผู้เรียนสนใจ เกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ และการจดจำตามมา และนำไปสู่ความสามารถในการใช้เหตุผล เข้าใจความเชื่อมโยงสัมพันธ์ในทุกมิติของชีวิต
การทดลองสอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์
กลุ่มที่ 1 หน่วยอาหารดีมีประโยชน์

ขั้นนำ เริ่มต้นนิทาน
ข้อเสนอแนะของอาจารย์ นิทานควรมีฉากที่มีความสัมพันธ์กับเนื้อหา และมีตัวละครมากกว่านี้
กลุ่มที่ 2 หน่วยผีเสื้อ

ขั้นนำ เริ่มต้นด้วยเพลง Butterfly 
ขั้นสอน สนทนาเกี่ยวกับเนื้อเพลงแล้วอธิบายเกี่ยวกับวงจรผีเสื้อ
ข้อเสนอแนะของอาจารย์ เพิ่มการสนทนาในเนื้อเพลงมากขึ้นเพราะสามารถเพิ่มการสัมพันธ์เนื้อหาได้มากกว่านี้ และควรมีภาพให้เด็กมาติดในวงจรผีเสื้อให้เด็กได้มีส่วนร่วม และครูควรเตรียมข้อมูลในการสอนให้ดี
กลุ่มที่ 3 หน่วยประสาทสัมผัสทั้ง 5

ขั้นนำ เริ่มต้นด้วยปริศนาคำทาย
ขั้นสอน ครูให้เด็กๆ ออกมาชิมสิ่งที่ครูเตรียมมาให้ 2 กลุ่มว่ามีรสชาติอย่างไรแล้วเตรียมรสชาติอีก 2 ตัวเลือกให้เด็กตอบว่ารสชาติของหมายเลข 1 หรือ 2 เหมือนกับที่ครูให้ชิม

ข้อเสนอแนะของอาจารย์ ควรทำแค่ 2 อย่างที่คือ น้ำเกลือและน้ำตาล เพื่อให้น้ำมีลักษณะใสเหมือนกันเพราะเราสอนเรื่องประสาทสัมผัสเรื่องของลิ้นที่มีหน้าที่ชิมรส ไม่ควรมีสีสัน ควรสอนเรื่องของการชิมอะไรควรอยู่ในการดูแลของผู้ใหญ่ และควรมีตารางสรุปให้เด็กได้เห็นภาพว่าเด็กเลือกหมายเลขใด แล้วร่วมกันสรุป
กลุ่มที่ 4 หน่วยบ้านแสนรัก

ขั้นนำ เริ่มต้นด้วยเพลง พี่น้องกัน
ขั้นสอน ให้เด็กๆ นำรูปมาติดรูปลงในตารางความสัมพันธ์สมาชิกในบ้าน
ข้อเสนอแนะของอาจารย์ ควรมีการสนทนาเนื้อหาในเพลงเพื่อนำเข้าสู่เนื้อหา โยงเส้นความสัมพันธ์เริ่มจากตัวเราขึ้นไปหาพ่อกับแม่เพื่อให้เด็กรู้ว่าเราเกิดมาจากใคร ควรเพิ่มการสอนการดูแล ปฏิบัติต่อครอบครัวด้วย
กลุ่มที่ 5 หน่วยใต้ร่มเงาไม้

ขั้นนำ เริ่มต้นด้วยเพลง ดูแลรักษาต้นไม้
ขั้นสอน จากเพลงมีการดูแลรักษาต้นไม้อะไรบ้าง ให้เด็กๆ ตอบแล้วครูเขียนลงบนกราฟฟิก จากนั้นแนะนำอุปกรณ์,วิธีการปลูกต้นไม้ แล้วสาธิตการปลูกต้นไม้ ให้เด็กสังเกตระหว่างต้นไม้ที่ได้รับแสงแดด กับต้นไม้ที่ไม่ได้รับแสงแดดที่ครูเตรียมมา แล้วอธิบายให้เด็กฟังว่ามีความแตกต่างอย่างไร
ข้อเสนอแนะของอาจารย์ ในเนื้อเพลงถ้าเราฟังแล้วไม่เหมาะสมเราก็สามารถปรับเนื้อเพลงได้ ในการเขียนวิธีการที่เป็นขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการทำอะไรก็ตาม ควรใส่กล่องเพื่อให้เห็นขั้นตอนอย่างชัดเจน และเป็นระบบ การนำต้นไม้มาให้เด็กสังเกตควรให้เด็กมีส่วนร่วมในการดูแลอย่างน้อย 5 วัน ทำต้นไม้เป็น 3 กลุ่ม
1. ต้นไม้ที่ได้รับน้ำ อากาศ และแสงแดด
2. ต้นไม้ที่ไม่ได้รับน้ำ แต่ได้รับอากาศ และแสงแดด
3. ต้นไม้ที่ได้รับน้ำ แต่ไม่ได้รับอากาศ และแสงแดด
*เพื่อให้เด็กได้มีส่วนร่วมและร่วมกันสังเกตว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ต้นไม้มีการเจริญเติบโต เมื่อครบ 5 วันแล้วนำมาสรุปร่วมกัน
Skills
       - ทักษะสรุปข้อมูล
       - ทักษะการคิดอย่างมีเหตุผล
       - ทักษะการฟัง 

Technique teaching
       - การบรรยายความรู้
       - การอธิบายเพิ่มเติมจากข้อมูลที่มีอยู่
       - การสนทนาถาม ตอบ
       - การให้ทดลองปฏิบัติ

Adoption
       - สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียน จากการสังเกตที่เพื่อนๆ ทดลองสอนไปปรับใช้ได้ในการสอนของตนเอง และจากการแนะนำเพิ่มเติมของอาจารย์ทำให้ได้รับความรู้มากขึ้น มีแนวทางและเทคนิคการสอนที่มากขึ้น มีความละเอียดมากขึ้น 

Assessment
       ประเมินตนเอง 
              - แต่งกายเรียบร้อย มีการตอบคำถาม ให้ความร่วมมือกับเพื่อนและตั้งใจฟังอาจารย์
       ประเมินเพื่อนร่วมชั้น 
              - เพื่อนๆ เข้าเรียนตรงเวลา ช่วยกันตอบคำถามและตั้งใจเรียน 
       ประเมินอาจารย์ผู้สอน 
              - อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา มีการถามตอบกับนักศึกษาอยู่ตลอด
**คำศัพท์**

theory                  แปลว่า     ทฤษฎี
Brain function แปลว่า การทำงานของสมอง
talk                      แปลว่า     สนทนา
attendant            แปลว่า     ดูแลรักษา
information          แปลว่า    ข้อมูล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น